X-Men: Dark Phoenix – X-เม็น ดาร์ก ฟีนิกซ์
หนัง X-Men: Dark Phoenix Jean Grey สุดยอดมนุษย์กลายพันธุ์ที่แข็งแกร่ง ได้ยกระดับ พัฒนาพลังตัวเองไปอีกขั้น และทำให้เธอได้กลายเป็น Dark Phoenix เหล่า X-Men ที่เหลือต้องตัดสินใจว่าชีวิตของเพื่อนร่วมทีมจะคุ้มค่ากว่าชีวิตทั้งหมดบนโลกหรือไม่!
รีวิว
บทสรุปส่งท้ายของแฟรนไชส์หนัง X-MEN กว่า 19 ปีภายใต้การดูแลของค่าย 20th Centuries Fox ก่อนที่จะย้ายไปสู่บ้านใหม่ Walt Disney (ที่เชื่อว่าหลายคนรอคอยเหลือเกิน) Dark Phoenix ว่าด้วยเรื่องราวระหว่างที่ทีม X-Men ออกไปปฏิบัติภารกิจกู้ภัยในอวกาศ แต่เกิดอุบัติเหตุบางอย่างขึ้น จีนเกือบจะตายเพราะถูกพลังคอสมิคบางอย่างพุ่งชน แต่เธอก็รอดกลับมาได้ พร้อมกับพลังที่มากขึ้นอย่างไร้ขีดจำกัด เพียงแต่ว่าเธอกลับไม่สามารถควบคุมมันได้และหวาดกลัวในสิ่งที่อยู่ข้างใน ทีม X-Men จึงต้องร่วมมือกันเพื่อช่วยเหลือจีน ไม่ให้เธอลงมือทำอะไรที่เลวร้าย และปกป้องจีนจากวายร้ายที่ต้องการใช้พลังของเธอเพื่อทำการใหญ่บางอย่าง..
คือเอาจริงตอนแรกก็คิดว่าหนังจะเละไปเลย เพราะด้วยความที่ตัวหนังมีปัญหามากจนถึงขั้นต้องมีการถ่ายซ่อม และมีการเลื่อนฉายจากปีก่อนมาฉายปีนี้ก็ดี แต่พอได้ดูแล้วก็ค้นพบอย่างแรกเลยคือการที่หนังถ่ายทำเพิ่มเติมเพื่อเปลี่ยนแปลงบทและเรื่องราว ไม่ใช่การถ่ายซ่อมหนังแต่อย่างใด เพราะหากดูก็เชื่อว่าหลายคนน่าจะรู้สึกได้เหมือนกัน นั่นก็คือเหมือนแรกเริ่มเดิมที หนัง X-MEN เรื่องนี้ยังไม่ใช่บทสรุปซะทีเดียว ภาคนี้ควรจะเป็นจุดเริ่มต้นหรือเป็นภาคต้นของเรื่องราวสงครามที่โลก/X-MEN สู้กับ ตัวร้ายใหม่หรือ Dark Phoenix เสียมากกว่า แต่พอเกิดการเปลี่ยนมือในการดูแลแฟรนไชส์นี้เกิดขึ้นทำให้ต้องมีการแก้ไขให้ทุกอย่างถูกรวบจบและสรุปในหนังภาคนี้ภาคเดียวเลยเสียมากกว่า
พอเรามองจากมุมมองนี้ก็เกิดความยอมรับในใจว่าโอเคหนังก็คุมให้ออกมาได้ดีที่สุดเท่านี้แล้วจริงๆ ดูจบแล้วเอาจริงหนังมันก็พอดูได้เพลินๆ อยู่ เพราะ X-MEN ชุดนี้ก็มีความโดดเด่นในเรื่องของ Characters หรือ ทีมนักแสดงอยู่แล้ว อย่างเช่น Magneto ที่รับบทโดย Michael Fassbender ที่ยังคงความน่าสนใจอยู่ การดำเนินเรื่องถึงแม้ว่าจะไม่มีอะไรและแบนราบแต่อย่างน้อยๆ มันก็ไม่ไร้ทิศทาง สะเปะสะปะอะไรเพียงแต่หนังก็มีความเซ็งแซ่ในแบบของมัน ด้วยความที่เพลย์เซฟก็ดี หรือสเกลที่เล็กน้อยของมันก็ดี จะบอกว่าผิดหวังก็ไม่เชิงเพียงแต่ว่าเสียดายปนเข้าใจ เพราะตัวหนังเองก็ตั้งใจทำออกมาเพื่อแลนดิ้งแฟรนไชส์นี้ให้จบลงอย่างปลอดภัยไม่พังเสียมากกว่า
โดยรวมแล้วในฐานะคนที่ชอบหนัง X-MEN (ไม่ว่าจะเละแค่ไหนก็ตาม) ก็พอรับได้บ้างและหากคุณเป็นคนแบบเดียวกันก็อยากให้ลองไปดู แต่ถ้าไม่ใช่ก็เรียนแจ้งกันตรงๆ ว่า Dark Phoenix เป็นหนังที่เราผ่านได้โดยไม่รู้สึกเสียดายหรือรู้สึกพลาดอะไร หนังไม่ได้แย่ ไม่ได้พังขนาดนั้น แต่ก็ไม่ได้มีอะไรพีคพอที่จะดึงดูดผู้ชมเลย
ที่มา : movie.thaiware.com