The Lion King


เรื่องย่อหนัง

หนัง The Lion King หรือชื่อไทยว่า ไลอ้อน คิง เรื่องราวของสิงโตแห่งผาทรนง เมื่อเจ้าป่ามูฟาซ่าถูกฆ่าตาย และสการ์น้องชายผู้ริษยา โยนความผิดนี้ให้กับซิมบ้า ลูกชายของมูฟาซ่า ทำให้ซิมบ้าต้องหนีอดีตอันแสนเจ็บปวดและยึดถือคติการดำรงชีวิตใหม่คือ “ฮากูน่า มาทาท่า” เรื่องราวของการผจญภัย โชคชะตา และความรัก สร้างจากแอนิเมชั่นที่ประสบความสำเร็จ กวาดรายได้ มากถึง 968 ล้านดอลล่าร์สหรัฐฯ

รีวิว
ช่วงนี้ Disney ก็ทยอยนำเอาการ์ตูนในค่ายกลับมาทำ Live-Action ซะมากมาย และก็ถึงคราวการ์ตูนสุดคลาสสิคโคตรอมตะตั้งแต่ปี 1994 อย่าง The Lion King ที่ถือว่าเป็นการ์ตูนที่เราชอบที่สุดใน Disney เลยก็ว่าได้ การได้เห็นมันมาฉายในโรงอีกรอบในรูปแบบที่สมจริงขึ้น ก็เหมือนเป็นการได้ย้อนวัยกลับไปเจอเพื่อนเก่า
เรื่องราวของ The Lion King คงไม่ต้องพูดถึงแล้วกระมั้ง เพราะหลายๆ คนคงจะเคยดูและรู้เรื่องราวเหล่านั้นมาอยู่แล้ว แต่สำหรับเราแล้ว ก็ยังอยากเห็นอะไรที่แปลกใหม่ ที่อยู่ในเค้าโครงเรื่องเดิม เพราะไม่งั้นมันก็จะกลายเป็นแค่แปลงภาพออกมาให้ดูสวยขึ้นเท่านั้น และ The Lion King ฉบับหนังก็เป็นแบบนั้นซะด้วยสิ
ตลอดทั้งเรื่องเกือบจะทุกฉาก มันกลายเป็นแค่การถอดแบบออกมาจากต้นฉบับแบบฉากต่อฉากเลยก็ว่าได้ ไม่ได้มีเซอร์ไพรส์ ไม่ได้แปลกใหม่

แต่ที่โดดเด่นขึ้นอย่างเห็นได้ชัดเลยคืองานด้านภาพ ที่ต้องบอกว่าสวยมากจริงๆ ทั้งเหล่าสัตว์ต่างๆ ที่แต่ละตัวสมจริงเหลือเกิน รู้สึกดีใจ ที่ได้เห็นเหล่าตัวละครทั้ง Mufasa Simba Scar Sarabi Zazu มาในรูปแบบที่มีชีวิต ตามมาด้วยสภาพแวดล้อมที่งดงาม อลังการงานสร้างสุดๆ มันสมจริงให้อารมณ์เหมือนดูสารคดีส่องสัตว์โลกมาก แต่มันก็กลายเป็นดาบสองคม

ด้วยความที่มันเป็น Live-Action และงานด้านภาพสมจริงขนาดนั้น เราจึงเห็นการแสดงออกทางอารมณ์ผ่านทางสีหน้าได้ไม่ดีเท่าต้นฉบับในรูปแบบการ์ตูน ด้วยจุดนั้นมันก็เลยทำให้เราไม่รู้สึกอินตาม หรือเกิดอารมณ์ร่วมไปกับเนื้อเรื่องเท่าไหร่ และมันดันเป็นจุดสำคัญซะด้วยสิ เพราะความสนุก ความอินส่วนใหญ่ และน่าประทับใจของการ์ตูนต้นฉบับคือการที่ได้เห็นเหล่าสัตว์แสดงออกทางสีหน้า ไม่ว่าจะมีความสุข กลัว ระแวง โกรธ และจุดเหล่านั้นหนังทำได้ไม่ดีพอ จึงส่งผลต่อซีนอารมณ์หลายๆ ฉากมากเลยทีเดียว

ตามมาด้วยเสียงพากย์ ที่ไม่ได้แย่ แต่ต้องบอกตามตรงว่าทำได้ไม่ดีเท่าต้นฉบับ ถึงแม้จะได้ James Earl Jones กลับมารับเสียงพากย์ Mufasa ก็ตาม โดยเฉพาะเสียงพากย์ของ Scar ที่ต้นฉบับทำเอาไว้ได้ดีมากจริงๆ มันจึงอดที่จะเอาไปเปรียบเทียบไม่ได้

ทั้งนี้ทั้งนั้น โจทย์ที่ยากของการนำเรื่องเดิมๆ มารีบูททำใหม่ก็คือ การทำยังไงให้เอาเนื้อเรื่องเดิมที่คนรู้ตอนจบอยู่แล้ว กลับมาทำใหม่ให้น่าสนใจ แปลกใหม่น่าดึงดูด แต่ก็ต้องก็ยังคงความสนุกแบบเดิมเอาไว้ด้วย เราไม่ได้บอกว่า The Lion King เป็นหนังที่ไม่สนุก มันก็สนุกแหละ เพียงแต่ว่ามันสนุกแบบเดิมๆ ให้ความรู้สึกเดิมๆ ไม่แปลกใหม่ ไม่เต็มอิ่ม เราจึงรู้สึกเสียดายและไม่คุ้มค่าสักเท่าไหร่ กลายเป็นแค่เหมือนการกลับไปดู The Lion King ที่พัฒนาเพียงแค่งานด้านภาพอย่างเดียวเท่านั้น และหลังดูจบเราก็ยังคงประทับใจต้นฉบับเวอร์ชั่นการ์ตูนมากกว่าอยู่ดี