The Kid Who Would Be King – หนุ่มน้อยสู่จอมราชันย์
หนัง The Kid Who Would Be King เรื่องราวของเด็กธรรมดาๆ คนหนึ่งที่บังเอิญไปดึงดาบ Excalibur ออกจากหินได้ ทำให้เชาต้องรวมทีมกับเพื่อนๆ ของเขาเหล่าอัศวิน และพ่อมดในตำนาน Merlin เขาต้องเป็นผู้นำที่ยิ่งใหญ่ แบบที่เขาไม่คาดฝันมาก่อนในชีวิต
รีวิว
The Kid Who Would Be King หนังที่น่าดูตั้งแต่โปสเตอร์ยันตัวอย่าง กับเรื่องราวของ เด็กน้อยที่ไปบังเอิญเจอดาบของคิงอาเธอร์ปักอยู่ แล้วเขาก็ดั๊นหยิบมันขึ้นมาได้ ทำให้ต้องแบกความรับผิดชอบที่ใหญ่ยิ่งปกป้องโลกจากอันตรายจากแม่มดร้ายมอร์กานา จริงๆ มันก็คือเรื่องของคิงอาเธอร์ที่เราคุ้นเคยกัน ถูกเล่าแล้วเล่าอีก เพียงแต่ในคราวนี้มันลดทอนความรุนแรง ดราม่า และเป็นตำนานคิงอาเธอร์ในเวอร์ชั่นเหมาะสำหรับเด็กแทน
จริงๆ เราอาจจะคาดหวังมันไว้สูงไป หรือเราอาจจะโตไปสำหรับหนังอะไรพวกนี้แล้วก็ได้ – -” หนังมันค่อนข้างดำเนินเรื่องเรื่อยๆ เชยๆ คาดเดาได้ การแสดงก็ไม่ได้โดดเด่น พาร์ทดราม่าก็ไม่อิน กับเรื่องราวของลูสเซอร์ เด็กเนิร์ดของโรงเรียนที่ถูกกลั่นแกล้งตลอด จนกลายมาเป็นฮีโร่ คือมันไม่มีอะไรแปลกใหม่ แล้วตลอดทั้งเรื่องหนังก็ทำให้เราว้าวไม่ได้เลยสักฉาก แม้กระทั่งฉากสู้กันที่ฝึกคนทั้งโรงเรียนจากในตัวอย่าง มันก็ยังเฉยๆ มากเลย รวมทั้งมุกในเรื่องมันก็พอยิ้มได้ ฮาบ้าง แต่ส่วนใหญ่มันจะแป้กซะมากกว่า
สิ่งที่น่าชื่นชมของหนังคือการวางตัวละคร ต่างวัย ต่างเชื้อชาติ ต่างนิสัย ไม่ว่าจะเป็นอันธพาล เด็กผิวสี เด็กอินเดียน ซึ่งมันเป็นการสอดแทรกประเด็นความสามัคคี ปลูกฝังให้แก่คนได้แบบเล็กๆ น้อยๆ แต่น่าชื่นชมแบบสุดๆ อีกอย่างนึงที่ไม่พูดถึงเลยก็คงไม่ได้ มันคือ CG ซึ่งในเรื่องนี้ต้องยอมรับว่าทำออกมาได้ดี เนียนตา และสวยเลยทีเดียว
ปกติเนี่ยหนังแนวๆ นี้พอดูจบแล้วมันจะสร้างอะไรในใจ และทำงานกับเราในบางอย่าง แต่เรื่องนี้กลับไม่ทำให้เรารู้สึกอะไรเลยหลังดูจบ จบแล้วก็จบไปงั้นๆ เฉยมากจริงๆ อย่างที่บอกไปตอนแรกว่า “เราอาจจะโตไปสำหรับหนังแบบนี้ก็ได้” แต่มันอาจจะเหมาะสำหรับเด็ก และก็ครอบครัวที่พาลูกหลานมาดู คงจะเอ็นจอยกับหนังเรื่องนี้ไม่ใช่น้อย
ที่มา : movie.thaiware.com