REVIEW:BAD BOYS FOR LIFE


Bad Boys for Life: เมื่อหนังคู่หูตำรวจโหด

นักแสดง: Will Smith, Martin Lawrence, Alexander Ludwig, Vanessa Hudgens

ผู้กำกับ:  Adil El Arbi & Bilall Fallah

เรื่องย่อ คู่หูนรก ไมก์ ลอว์รีย์ และ มาร์คัส เบอร์เน็ตต์  จากแฟรนไชส์ Bad Boys กลับมาอีกครั้งกับภารกิจเสี่ยงชีวิตครั้งสุดท้ายเพื่อยืนยันว่า คู่หูตลอดกาลไม่มีวันตาย

ห่างหายจากภาคก่อนหน้าไปถึง 17 ปี (โอ้โห) นับตั้งแต่ภาคสองในชื่อ Bad Boys II ที่ออกมาตั้งแต่ปี 2003 (ส่วนภาคแรกซัดไปปี 1995 เมื่อ 25 ปีก่อน) โดย 2 ภาคแรกเป็นผลงานสร้างชื่อของ ไมเคิล เบย์ ที่ได้ วิล สมิธ และ มาร์ติน ลอว์เรนซ์ ดาราผิวสีชื่อดังแห่งยุค 90s มารับบทคู่กันในหนังคู่หูตำรวจที่ทั้งบู๊และตลกห่ามฮาไปพร้อมสูตรสำเร็จหนังแอ็กชันจนมีแฟนพันธุ์แท้ของแฟรนไชส์อยู่ไม่น้อยที่รอคอยการกลับมาของทั้งคู่

และสำหรับ Bad Boys For Life หรือภาค 3 นี้ต้องบอกว่า หนังฉวยโอกาสของระยะห่างจากภาคก่อนที่ตัวละครวัยเปลี่ยนล่วงสู่ช่วงเกษียณได้ยอดเยี่ยม ทั้งวิถีคิดเปลี่ยนไป และทั้งโลกยุคใหม่ที่ไปไวจนทอดทิ้งคนสูงวัยเร็วขึ้น เทคนิคสอบสวนลุยดะของหมาแก่แบบเก่า ๆ เริ่มถูกปรามาสด้วยหน่วยไฮเทคที่อุปกรณ์ครบครันทั้งแฮกเกอร์ ทั้งโดรนสายลับ และเมื่อมาร์คัส (มาร์ติน ลอว์เรนซ์) ถอดใจอยากเกษียณตัวเองอยู่กับครอบครัวแสนสุขในยามที่ตนได้เป็นคุณตา โดยหวังจะทำให้คู่หูเปลี่ยนใจตามและเลิกพังสังขารเสี่ยงชีวิตอย่างที่เคยเป็นมา ขณะที่ทางไมก์ (วิล สมิธ) กลับยังทะนงตนว่าเป็นตำรวจมือฉกาจแห่งไมอามี่ฉายาหนังเหนียวยิงไม่เข้า ทว่าอดีตที่เขาเคยสร้างความแค้นกับอาชญากรไว้มากมายก็ยังตามหลอกหลอนในรูปของการฆ่าล้างแค้น ซึ่งทำให้เขาไม่อาจถอนตัวจากสงครามปราบโจรได้ง่าย ๆ

ทั้งนี้เมื่อดูจากบทตั้งต้นที่ โจ คาร์นาฮาน (จากหนัง Smokin’ Aces, 2006) และ ปีเตอร์ เครก (จากหนัง The Town, 2010) ได้วางกันไว้ ก็ถือว่าฉลาด และสมเหตุสมผล เราไม่สะดุดกับลำดับสถานการณ์ที่ผลักดันตัวละครให้ต้องเป็นไป ซึ่งเป็นการเขียนบทที่ดีมากเมื่อเทียบกับหนังแนวแอ็กชันที่มักเอาฉากโชว์เป็นตัวนำแล้วยัดเหตุผลให้ตัวละครวิ่งเข้าไปหาฉากเหล่านั้นเสียมากกว่า แต่กับเรื่องนี้เรารู้สึกถึงแรงขับดันของตัวละครเอกที่สวนทางกัน และการมีสติของตัวละครรอบข้างอย่างที่มนุษย์ควรเป็นทั้งนิทานศาสนาพุทธที่ผู้กองฮาเวิร์ดยกมาเตือนสติไมก์ก็คมและมาได้ถูกที่ถูกทางจนน่าประหลาดใจกับหนังสไตล์ไมเคิล เบย์แบบนี้

สรุปนี่คือหนังแอ็กชันคอมเมดี้สไตล์คู่หูตำรวจแบบคลาสสิกที่เคยเป็นที่โปรดปรานกันมาก ๆ สมัยยุค 90s แต่ยังสามารถกลับมาในยุค 2020 ได้แบบไม่อายใคร เรียกว่าเป็นภาคใหม่ที่ห่างภาคเก่าจนลืมและน่าจะไม่เวิร์ก แต่กลายเป็นเซอร์ไพรส์และเป็นหนังที่สนุกมากได้เสียอย่างนั้น คอบันเทิงทั้งแฟนเดิมจากภาคแรก ๆ ทั้งคอแอ็กชันตลกโปกฮา ไม่น่าพลาดด้วยประการทั้งปวง

ติดตามได้ใน ดูหนังออนไลน์ หนังใหม่ชนโรง ดูหนัง netflix