REVIEW: HI BYE MAMA (2020)
เรื่องย่อ : Hi bye Mama (2020) บอกเล่าเรื่องราวของ ชายูริ (รับบทโดย คิมแทฮี) หญิงสาวที่กลายเป็นผีมากว่า 5 ปีหลังจากการเสียชีวิตในอุบัติเหตุ เธอได้มีโอกาสอีกครั้งในการที่จะได้กลับมาเป็นมนุษย์ซึ่งข้อเสนอครั้งนี้เธอจะอยู่ได้เพียงแค่ 49 วัน โดยสามีของเธอคือ โจควังฮวา (รับบทโดย อีคยูฮยอง) ซึ่งทำงานเป็นศัลยแพทย์ที่เชียวชาญด้านการผ่าตัดทรวงอก เขาเป็นคนน่ารักมากจนเมื่อภรรยาเสียชีวิตไป บุคลิกของเขาก็เปลี่ยนไป หลังจาก 5 ปีที่เกิดเรื่องเศร้าขึ้น ภรรยาของเขาก็ปรากฏตัวอีกครั้งดั่งปาฏิหาริย์
เรื่องราวแนวผีกลับมามีชีวิตใหม่หรือไม่ก็มาวนเวียนอยู่กับครอบครัวคนรักที่มักมีทำออกมาเรื่อยๆ ซึ่งโดยทั่วไปก็มักจะพยายามผสมเรื่องอื่นลงไปตามสูตรอย่างฆาตกรรมตามล่าหาฆาตกร แต่เรื่องนี้มาในแนวคลาสสิคด้วยประเด็นความรักการห่วงหาอาทรของครอบครัวที่ไม่หวือหวา ปูเรื่องละเมียดละไมค่อยเป็นค่อยไป แช่ซีนอารมณ์เหล่านี้นานๆ มากกว่าจะเป็นเน้นหักมุมเรื่องราวแบบทั่วไป
จุดเด่นของเรื่องนี้ที่คนสนใจกันมากเป็นพิเศษคือ ดารานักแสดงสาวชื่อดังที่ห่างหายวงการไปนานถึง 5 ปี คิมแทฮี กลับมารับบท ‘ซายูริ’ คุณแม่ยังสาวที่ต้องมาตายจากลูกไปตั้งแต่แรกเกิด แล้วก็กลายเป็นผีมาวนเวียนดูลูกด้วยความรักแต่จับต้องไม่ได้ ในขณะที่สามี ‘โชควังฮวา’ ศัลยแพทย์หนุ่มหล่อแต่งงานใหม่ไปเรียบร้อยแล้ว และก็ดูจะทำใจลืมภรรยาเก่าได้ แต่เรื่องไม่ได้เรียบๆ แบบนั้นเมื่อเกิดปาฏิหาริย์บางอย่างทำให้ซายูริกลับมามีชีวิตในร่างเดิมอีกครั้ง โดยมีเงื่อนไขว่า 49 วันนี้เธอต้องหาทางกลับไปใช้ชีวิตเหมือนก่อนที่ตายจากลูกกับสามีไปให้ได้
พรจากสวรรค์หรือการลงทัณฑ์กันแน่
จากการกลับมามีชีวิตนี่เองทำให้เรื่องนี้แตกต่างออกไปจากแนวผีแฟนตาซีเรื่องอื่น ที่ปกติมักจะเป็นผีคอยช่วยเหลือคนรัก เรื่องนี้นางเอกแค่เคยเป็นผี แต่กลับมาอยู่ในร่างคนเรียบร้อยแล้ว มันเหมือนจะแฮปปี้แต่ไม่ใช่ เพราะเธอต้องเจอกับปัญหาการกลับมาแบบเหนือธรรมชาติที่อธิบายได้ลำบาก ซึ่งไม่ว่าใครก็คงรับเรื่องนี้ได้ยากแน่ๆ แม้ว่าจะเป็นคนใกล้ชิดก็ตามที หนังเปิดประเด็นนี้ไว้ในช่วง EP2 จากที่เหมือนเป็นปาฏิหาริย์กลับกลายเป็นคำสาปสวรรค์ลงทัณฑ์ซะมากกว่า เมื่อต้องกลับมาแทรกในชีวิตครอบครัวใหม่ของสามีที่ทำใจแต่งงานใหม่ไปแล้ว การมาของนางเอกในตอนนี้ก็เหมือนผิดที่ผิดทาง ถ้าอยากกลับมามีชีวิตก็ต้องแย่งชีวิตในอดีตของเธอกลับมาให้ได้ ซึ่งไม่ใช่แค่ในครอบครัวของเธอเอง แต่รวมถึงญาติมิตรเพื่อนในสังคมทั้งหมดด้วย นั่นทำให้ซีรีส์เรื่องนี้มีปมน่าสนใจว่า คนตายไปแล้วถ้ากลับมาได้แบบที่คนเป็นมักอ้อนวอนอยากให้คนที่รักกลับมา มันจะเป็นสิ่งที่ดีจริงๆ หรือว่าเป็นสิ่งที่ผิดกันแน่? และทุกตอนช่วงท้ายจะมีการแฟลชแบ็คกลับไปให้เห็นช่วงเวลาแห่งในอดีตของนางเอก บิ้วดราม่าสะเทือนใจปิดท้ายกันทุกตอน

ซีรีส์มีเรื่องราวดราม่าสูงมาก นอกจากจะหนักหน่วงไปกับชะตากรรมของนางเอกแล้ว คนรอบตัวนางเอกก็ไม่ต่างกัน เรื่องราวโฟกัสไปที่บาดแผลในจิตใจของคนรู้จักใกล้ชิดนางเอกทั้งหมด ทำให้เห็นมุมมองต่างๆ ที่มีทั้งคนที่พยายามลืมหรือซ่อนความเจ็บปวดไว้ในใจ โดยพระเอกที่ดูเหมือนลืมเรื่องราวร้ายๆ ได้แล้ว ด้วยการเริ่มต้นใหม่ในชีวิต แต่งงานใหม่กับผู้หญิงที่ต่างออกไปจากภรรยาคนแรกในทุกๆ ทาง กลับเหมือนเป็นการหาคนที่แตกต่างมากลบเกลื่อนความเจ็บปวดที่ไม่เคยจางหายไป แล้วอาการที่ซ่อนไว้อยู่ก็ส่งผลร้ายทำให้เขากลายเป็นหมอที่ไม่อาจจะปฏิบัติหน้าที่ช่วยชีวิตคนได้อีกต่อไป ซึ่งบทของพระเอกดูแล้วรันทดกว่าตัวของนางเอกที่ตายจากไปเสียอีกในช่วง 2 ตอนแรกก่อนที่จะค่อยๆ เปลี่ยนมามีชีวิตชีวาขึ้นเรื่อยๆ ในภายหลังจากที่นางเอกกลับมาแล้ว

ตลกแฟนตาซีที่เป็นธรรมชาติของตัวละคร
แม้เรื่องจะดูหนักหน่วงมาก แต่เรื่องนี้ไม่ได้หนักหรือเครียดตลอด เพราะโทนของเรื่องเป็นแนวแฟนตาซีกับการถ่ายทำฉากสวยๆ ซึ้งประทับใจในความรักที่ซายูริมีต่อลูก แม้จับต้องตัวลูกไม่ได้ก็ขอแค่ได้พูดคุยข้างเดียวก็พอใจ ซึ่งการแสดงของคิมแทฮีที่มีลูกสาวในวัยเดียวกันก็ทำให้สมจริงยิ่งขึ้นไปอีก (แต่น้องนักแสดงเด็กในบทนี้ตัวจริงเป็นเด็กผู้ชาย) บวกกับตลกเรื่องช่วงชีวิตผีๆ ของเธอ ที่ซายูริมักชอบแหกกฏโลกหลังความตาย ที่มีกฏเกณฑ์ต่างๆ ที่ผีควรพึงกระทำกำกับไว้ แต่โลกของผีในเรื่องนี้ยังไม่ได้แตกต่างอะไรจากเรื่องอื่นมากนักในตอนเริ่ม แต่พอนางเอกกลายเป็นคนแล้วกลับกลายเป็นว่าต้องติดอยู่สองโลกหาทางช่วยเหลือผีที่ติดค้างไม่ไปสูสุขคติเป็นภารกิจย่อย ในระหว่างที่เธอเองก็ต้องพยายามหาทางออกให้ตัวเองว่าจะเอายังไงดีกับชีวิต 49 วันที่เหลือนี้ เรื่องราวจึงได้ฟีลทั้งดราม่าเรียกน้ำตาหนักๆ กับการกลับมาแล้วต้องทำให้คนที่รู้จักลำบากใจ แต่ก็คนดูก็สนุกไปกับการคาดเดาไม่ได้ว่าคนที่เจอนางเอกอีกครั้งมีฟีดแบ็คแบบไหนบ้าง มีฉากนางเอกจินตนาการว่าคนนั้นจะคิดยังไงเป็นจริงเป็นจัง กับอีกฟีลคือตลกแบบจริงจังกับการที่เธอต้องทำอะไรเพี้ยนๆ เพื่อช่วยผีที่มาขอความช่วยเหลือ รวมถึงความโก๊ะหลุดๆ ของนางเอกเองที่พลาดไปทำให้คนรู้จักพบเห็นกับการติดนิสัยเดิมๆ จนทำให้คนรู้จักจับโกหกนางเอกได้ว่าไม่ใช่แค่คนหน้าเหมือนอะไรแบบนั้น (นางเอกโกหกคนที่บังเอิญมาเจอหลายแบบ)
และช่วงหลังจากนางเอกที่กลับมาแล้ว บทของพระเอกก็เริ่มเปลี่ยนไปเป็นสายตลกด้วยอีกคน ทั้งตลกจากเรื่องเครียดๆ ปมปัญหาจิตใจของพระเอกที่สับสนกับการกลับมาของเมียที่ตายไป และคาแรกเตอร์นี้ที่จริงแล้วก็เป็นแนวตลกแบ้วๆ ซื่อๆ มีเสน่ห์อยู่แล้วในตัว ซึ่งพระเอก Lee Kyu-Hyung ก็เล่นได้น่ารักสมบทบาททั้งช่วงดราม่าหนักๆ แล้วก็หักมาเป็นตลกแบ้วๆ เอ๋อๆ ได้อย่างเหมือนคนบ้า นั่นทำให้กลายเป็นเรื่องนี้ถูกวางไว้เป็นซีรีส์ตลกโรแมนติกมากกว่าจะเป็นดราม่าสะเทือนใจแบบที่เข้าใจในตอนแรก

ปัญหาครอบครัวพ่วงเรื่องราวแฟนตาซี
เรื่องราวภายหลังนางเอกกลับมาเป็นคนแล้วก็ค่อยๆ เริ่มปูว่าปัญหาจริงๆ คือการกลับไปมีชีวิตแบบเดิม ซึ่งกลายมาเป็นปมรักสามเส้าในแบบแฟนตาซีเหนือจริง ซึ่งพระเอกเองก็ไม่รู้จะทำยังไงกับปัญหานี้ที่ไม่มีเหมือนใครในโลก หนังจึงปล่อยให้เรื่องราวเดินไปด้วยตัวเองอย่างช้าๆ เติมดราม่าไปทีละนิดๆ ค่อยๆ ทำให้เรื่องราวสมเหตุผลจากความแฟนตาซีที่เกิดขึ้นด้วยตัวเอง
ในส่วนของภรรยาใหม่ของพระเอก Oh Min Jung ก็จะค่อยๆ เริ่มแฟลชแบ็คกลับมาว่าเธอมาแต่งงานกับพระเอกได้ยังไง ซึ่งเราจะค่อยๆ ได้เห็นว่าไม่ได้เป็นแค่แทรกเข้ามาตอนพระเอกมีปัญหา แต่เธอเคยมีความหลังฝังใจกับพระเอกมาตลอดจากเรื่องบังเอิญที่เหมือนพหรมลิขิตให้มารับหน้าที่เลี้ยงดูลูกของนางเอก และก็ปูปัญหาการเลี้ยงลูกคนอื่น ไม่ได้รักหรือทำหน้าที่ได้ดีแบบแม่แท้ๆ ซึ่งก็เป็นปัญหาที่เกิดขึ้นจริงที่ซีรีส์นำมาใส่ไว้ และก็กลายเป็นปมให้รู้สึกเปรียบเทียบกับนางเอกที่เป็นแม่จริงๆ แล้วก็ส่งความรักมาถึงลูกสาวตลอดเวลา
Hi Bye Mama! เรื่องราวเป็นสูตรสำเร็จดราม่าเศร้าสะเทือนใจให้คนดูอินเสียน้ำตาได้ง่ายๆ โดยเฉพาะคนมีครอบครัวน่าจะอินเป็นพิเศษ แต่เรื่องราวก็ไม่ได้เศร้าสะเทือนใจไปหมด มีส่วนของความตลกที่จัดว่าฮาจริงกับความโก๊ะหลุดๆ ของนางเอก พ่วงกับเรื่องราวแฟนตาซีในโลกของผีที่เน้นฮาเป็นหลัก ทั้งสองส่วนดราม่ากับตลกแบ่ง 50/50 เท่าๆ กันในแต่ละตอน ทำให้เป็นซีรีส์ที่ดูไปยิ้มไปแล้วก็เรียกน้ำตาเศร้าๆ ไปพร้อมกัน
Hi Bye Mama! บ๊ายบายแม่จ๋า ดูหนัง netflix