Mad max Fury road ภาคต่อหนังแอ็คชั่นแฟนตาซี จากคุณปู่ผู้กำกับในตำนาน

Mad max Fury road กว่าจะมาเป็นตำนาน หนัง แอ็ ค ชั่ น ขึ้น หิ้ง ภาคล่าสุดนี้ มีความเป็นมาอย่างไร ?
Mad max Fury road จากหนังภาคต่อที่ยาวนานกว่า 41 ปี การเดินทางของหนังเรื่อง แมด แม็กซ์ นั้นได้มีจุดเริ่มต้นเล็กๆ ด้วยการเป็นหนังทุนต่ำในภาคแรก จึงผลักดันความสามารถของชายผู้กำกับอย่าง จอร์จ มิลเลอร์ ปัจจุบันอายุ 75 ปี เขาได้สร้างจุดเริ่มต้นของหนังตระกูลนี้ ด้วยการทีเอาเงินเก็บของตัวเองมาเป็นทุน ในการทำภาคแรก แสดงนำโดย เมล กิบสัน ซึ่งเจ้าตัวเองได้ออกมาบอกว่า ตัวของเขาเองไม่ได้ตั้งใจที่จะแสดงเรื่่องนี้เพียงแต่เขาเองมา เป็นเพื่อนของเพื่อนที่มาแคสติ้ง แต่ด้วยวิสัยทัศน์ของ จอร์จ มิลเลอร์ มองขาดว่าบทตัวเอกที่ชื่อ แม็กซ์ ต้องเป็น เมล กิบสัน เล่นในตลอดการถ่ายทำเป็นไปด้วย การทำงานแบบทุนต่ำ รถไหนที่พังเสียหายจาก การเข้าฉากก็ได้ถูกนำมาเข้าฉากใหม่ซ้ำๆ ถึงขั้นว่าเขาได้เอารถบ้านของตัวเอง มาใช้เข้าฉากอีกด้วย ถึงแม้จะเป็นสมบัติของตัวเองชิ้นสุดท้ายก็เถอะ จึงถือได้ว่านี้คือการทำงานที่ทุ่มเท ยอมสละทุกอย่างเพื่อให้ผลงานออกมาดีที่สุด หลังจากหนังเข้าฉายไปเรื่องรายได้และคำวิจารณ์นั้น เป็นจุดเริ่มต้นชื่อเสียงของเขาเลยก็ว่าได้ จึงได้มีโอกาสที่ได้ทำภาคต่อเรื่อยมา จนมาหยุดที่ภาคสามหนังออกฉาย เมื่อปี 1985 ถือว่าเป็นภาคต่อที่มีทุนสูงสุด ในไตรภาคที่ผ่านมา หลังจากนั้นเขาได้เปลี่ยนไปทำหนังแนวอื่นมั้ง จนกระทั่งปี 2015 กับการกลับมาของภาคต่อในชื่อภาษาไทยว่า แมด แม็กซ์ ถนนโลกันตร์ เหตุผลที่เขาใช้เวลานานกว่าจะทำภาคต่อ เพราะเขามองว่าเนื้อเรื่องภาคต่อ ต้องรอเทคโนโลยีการถ่ายทำ ให้ทันสมัยซะก่อน ซึ่งในยุคนั้นการทำ CGI ยังเป็นการลงทุนที่สูงและทำได้ยากอยู่ ทำให้เราได้เห็นภาคต่อที่ยาวนาน กับ หนังไตรภาค ที่ชื่อว่า แมด แม็กซ์
Mad Max ภาคต่อ เรื่องราวสานต่อภาคก่อนอย่างไร ?
เนื้อเรื่องภาคต่อล่าสุดนี้ หากใครที่ยังไม่เคยดูไตรภาคที่ผ่านมา ก็สามารถเข้าใจเนื้อหาได้เหมือนกัน เพราะเนื้อเรื่องแต่ละภาคจบในตอน จนมาภาคต่อนี้ เรื่องราวเกิดขึ้นในยุคหลังสงครามนิวเคลียร์ ผู้คนที่เหลือรอด หลังโลกที่ไร้ศีลธรรมกฎเกณฑ์ จึงเกิดกลุ่มความเชื่อใหม่ซึ่งเป็นตัวร้ายจากภาคแรก ถูกนำกลับมาอีกครั้งโดยชื่อว่า อิมมอร์แทน โจ นำแสดงโดย ฮิลจ์ คียส์ เบิร์น ที่สร้างกลุ่มของตัวเองขึ้นมา ด้วยความเชื่อที่ทุกคนบูชาตัวเขาอย่าง เทพเจ้า ได้มาโคจรเจอกับพระเอกของเรื่องอย่าง แม็กซ์ ในภาคต่อนี้นำแสดงโดย ทอม ฮาร์ดี จากผลงานเรื่อง Batman : Drak night rises แสดงเป็นตัวร้ายอย่าง เบน และอีกหนึ่งตัวละครที่เข้ามาใหม่ในภาคนี้คือ ฟูริโอซ่า นำแสดงโดย ชาร์ลีช เทรัน อดีตลูกน้องคนสนิทของ อิมเมอร์แทน โจ ที่มีความแค้นฝั่งลึกสมัยเด็ก ได้ลักพาตัวหญิงสาวแม่พันธ์ของ อิเมอร์แทน โจ หลลหนี จึงทำเรื่องราวของทั้งสามเข้ามาเกี่ยวข้องกัน โดยในภาคนี้ คุณปู่ จอร์จ ได้พูดถึง หนังแอ็คชั่น ยุคใหม่ ว่าไม่มีเสน่ห์หรือความน่าสนใจ ตัวของเขาเลยนิยามหนังเรื่องนี้เป็นการบอกว่า หนังแอ็คชั่นมันควรจะเป็นแบบนี้ ตลอดเวลา 120 นาที ของเรื่อง เราแทบไม่ได้พักหายใจ กับการเดินเรื่องแบบ หนังเดินทาง งานด้านภาพและเสียงนั้น ถือว่าได้กระชากใจคนดูอย่างมาก เทคนิกพิเศษต่างๆนั้น ถูกนำมาใส่ตามสิ่งที่ จอร์จ อยากให้เป็นเมื่อในอดีตเขานั้นได้สร้างโลกของเนื้อเรื่องได้แข็งแรง ทุกอย่างที่เห็นในเนื้อเรื่อง ล้วนมีส่วนสำคัญในเนื้อเรื่องทั้งหมด นับว่าเป็นผลงานภาคต่อที่ เหมือนเป็นลูกรักของจอร์จ สำหรับชื่อ แมด แม็กซ์ ที่เขารักและอยากให้เป็นมาตลอดในอดีต
ความน่าตื่นเต้น ใน Mad Max Fury Road หนังแอคชั่น น่าดู เรื่องนี้เป็นอย่างไร ?
ถึงแม้อายุจะเข้าสู่รุ่นปู่ แต่ฝัไม้ลายมือการกำกับนั้น เรียกได้ว่าตำนานจริงๆ ส่วนใหญ่เฟรนไชน์หนังภาคต่อนั้น มักจะได้รับการตอบรับน้อยลงทั้งคำวิจารณ์และรายได้ เพราะคุณภาพและไอเดียที่ลดลง แต่กับ จอร์จ แล้ว อายุก็เป็นเพียงแค่ตัวเลข ฉากการไล่ล่า รถระเบิด ยิงใส่กันนั้น ยังคงใช้เทคนิคการแสดงโดยใช้ของจริงอยู่เลย พยายามใช้ CGI ที่น้อยแต่ทรงพลังด้านฉาก เพียงอย่างเดียว ตลอดการถ่ายทำนั้น ได้ใช้แสงธรรมชาติทั้งเรื่อง ที่ทะเลทรายแอริโซนา ในรัฐแอริโซนาและรัฐแคลิฟอร์เนีย ประเทศสหรัฐอเมริกา ซึ่งเราจะได้เห็นถึงความทุ่มเทในการทำงาน จึงได้ผลงานที่มีคุณภาพ มีพัฒนาการของความแปลกใหม่ในแต่ละภาค ข้อดีของหนังชุดนี้คือ เนื้อเรื่องจบในตอน เหมือนการอ่านหนังสือที่เป็นบทๆ ทำให้สร้างกลุ่มคนดูรุ่นใหม่อย่างต่อเนื่อง ถ้าหากพลาดเนื้อเรื่องภาคไหนก็ตาม ก็สามารถดูข้ามสลับกันได้ ก็ยังเข้าใจเนื้อเรื่องอยู่เหมือนเดิม เสน่ห์ความน่าตื่นเต้นของหนังเรื่องนี้ คือฉากแอ็คชั่น ที่ถูกถ่ายทอดออกมา ในแบบที่คนดูไม่สามารถคาดเดา เหตุการณ์ล้วงหน้าในเรื่องได้เลย หนังจะพาเราไปสู่โลกสมมุติของหนังได้ตลอดทั้งเรื่อง การสร้างกฎของเนื้อเรื่องให้แข็งแรง จึงกลายเป็นรากฐานของหนังที่ สร้างความอิ่มหลังรับชมไปอีกซะพักใหญ่เลย ถ้าหากใครได้ดูในโรงต้องขอบอกว่า คุ้มค่าที่ได้ดูหนังแอ็คชั่นดีๆ ในชีวิต
ความสำเร็จของแฟรนไชส์หนังชุดในภาคนี้
หลังจากกระแสหนังชุดนี้เป็นที่ฮือฮา ทำให้คะแนนวิจารณ์ในเว็บ IMDB ขึ้น จาก 8.9 เป็น 9.3 ดีกรีความสำเร็จยังไม่หมด หนังภาคต่อนี้ได้รางวัลออสการ์ครั้งที่ 88 ไปถึง 6 สาขา และรางวัลอื่นๆอีกมากมาย ด้านรายได้บอกซ์ออฟฟิศทั่วโลก กวาดรายได้ไปถึง 378 ล้านเหรียญ ด้วยทุนสร้างที่เกินงบไปกว่า 180 ล้านเหรียญ ถึงแม้ทางค่ายจะได้กำไรไม่มากเท่าไร แต่เส้นทางของหนังชุดนี้ยังไม่จบอย่างแน่นอน ด้วยการมีเครื่องการันตีความสำเร็จขนาดนี้ ภาคต่อต้องมาอย่างแน่นอน โดยข่าวการทำภาคต่อนั้น ถูกโพสโดย Geek Worldwide ได้รายงานว่า ภาคที่ 5 ของหนังเฟรนไชน์เรื่องนี้ผู้กำกับยังเป็น จอร์จ คนเดีม ซึ่งมีแพลนที่จะถ่ายทำกันในปี 2020 ช่วงเดือนกันยายน – พฤศจิกายน นับว่าแฟน ๆ ต่างตั้งความหวัง ภาคต่อที่จะมาถึงในอนาคต จะออกมาดียิ่งกว่าภาคนี้อย่างแน่นอน
สิ่งที่คุณดูจะได้ จาก Mad max Fury road
นอกจากฉากแอ็คชั่นที่ชวนติดตามแล้ว ยังมีเนื้อเรื่องที่เป็นส่วนประกอบสำคัญของเรื่อง ที่สอดแทรกเนื้อหาที่ซ้อนลึก ไว้ในเนื้อเรื่องอีกด้วย อย่างภายในเรื่อง ตัวละคร War boy ก่อนทีจะพลีชีพตัวเอง ก็จะภูมิใจกับการตายในสนามรบ แล้วพูดถึงวาฮาลา ซึ่งถูกยกมาจากตำนานของ ชาวนอร์ส ที่มีความเชื่อว่า ถ้าตายในสนามรบนั้นถือว่าได้ขึ้น สวรรค์ไปยังดินแดนศักดิ์สิทธิ์ที่ชื่อว่า วาฮาลา กับเหล่าเทพโอดินที่เป็นผู้ปกครอง อีกทั้ง เรื่องพล็อบในฉากเอง ก็ยังมีที่มาที่ไปเช่นกัน คือเครื่องล็อคอวัยวะเพศหญิง อุปกรณ์ชิ้นนี้เคยถูกใช้จริง ในช่วงยุคกลางของประวัติศาสตร์ เพื่อปกป้องพรหมจรรย์ ของตัวเองให้บริสุทธิ์อยู่ ส่วนใหญ่คนที่ใช้จะเป็นแม่ชีหรือหญิงสาวเจ้าเมือง ทุกอย่างที่เห็นภายในเรื่องล้วนมีสิ่งที่ซ้อนอยู่อีกมากมายและมีประวัติของมันเอง ถ้าหากชื่นชอบหนังแอ็คชั่น เรื่องนี้นับว่าพลาดไม่ได้เลยที่ จะถูกหยิบขึ้นมาพูดถึงจึงทำให้มองว่าหนังเรื่องนี้ เป็นภาพยนตร์แอ็คชั่นที่ตอบโจทย์ แฟนบอยหนังแอ็คชั่นอย่างแน่นอน นอกจากการดีไซด์ฉากแอ็คชั่นที่ดีแล้ว ยังมีเนื้อเรื่องที่ใส่ความแปลก ไม่เหมือนใคร ขณะดูคุณอาจจะหายใจไม่ทันเพราะมุมมองการเล่าเรื่อง ตามชื่อของภาค ความรุนแรงเกิดขึ้นตลอดเส้นทางที่ตัวละครพาไป อีกทั้งถ้าคุณเป็นแฟนบอยเฟรนไขน์หนังชุดนี้แล้ว ถือว่าไม่ควรพลาดอย่างเด็ดขาด เราจะได้เห็นพัฒนาการหรือมุมมองที่แตกต่างออกไปจากภาคก่อนๆ อย่างแน่นอน