Ad Astra ภารกิจตะลุยดาว


รีวิวหนังใหม่

เรื่องย่อหนัง


หนัง Ad Astra หรือชื่อไทยว่า ภารกิจตะลุยดาว “Ad Astra” กำกับฯโดย เจมส์ เกรย์ เขียนบทฯโดย อีธาน กรอส นำแสดงโดย แบรด พิตต์, ทอมมี่ ลี โจนส์, โดนัล์ด ซูเธอร์แลนด์, จอห์น ออร์ทิส, เจมี่ เคนเนดี้ และรูธ เนกก้า กับเรื่องราวของนักบินอวกาศ รอย แม็คไบรด์ (แบรด พิตต์) ต้องรับหน้าที่ทำภารกิจสำคัญที่สุดในชีวิต นั่นก็คือการเดินทางข้ามระบบสุริยจักรวาล เพื่อตามหาพ่อผู้เป็นที่รักที่หายตัวไปอย่างลึกลับ ซึ่งสาเหตุนั้นอาจข้องเกี่ยวกับปริศนาที่ยังหาคำตอบไม่ได้ และเป็นความลับที่คุกคามการดำรงชีวิตอยู่ของมนุษยชาติบนโลกของเรา

รีวิว

Ad Astra คือเรื่องราวที่เกิดขึ้นในอนาคตอันใกล้ของนักบินอวกาศ รอย แม็คไบรด์ ที่ต้องรับหน้าที่สำคัญในภารกิจลับที่ต้องเดินทางข้ามระบบสุริยะเพื่อตามหาพ่อผู้เป็นผู้ควบคุมและนำสำรวจอวกาศเหมือนกัน ซึ่งเขาหายตัวไปอย่างลึกลับ และยังเกี่ยวพันกับเหตุการณ์ทางธรรมชาติสุดประหลาดที่อาจทำลายมวลมนุษยชาติ รวมไปถึงทุกสรรพสิ่งในจักรวาลนี้ได้เลย ต้องบอกว่าหนัง Sci-fi เรื่องนี้มีส่วนผสมของความเป็น Interstellar และ Blade Runner 2049 อยู่ประมาณนึงทั้งในแง่ของคอนเซ็ปต์และบรรยากาศ คือมันเหมือนในแง่ของความที่หนังก็ใช้การเดินทางสำรวจอวกาศแสนกว้างใหญ่ การตั้งคำถามสำคัญที่มนุษย์ทุกคนสงสัย พ่วงไปด้วยการพูดถึงเรื่องใกล้ตัวอย่างสายสัมพันธ์ของครอบครัว เพียงแต่ Ad Astra นำเสนอในแง่มุมที่ใจร้ายกับทั้งตัวละครและผู้ชมมากกว่า ตรงกันข้ามกับความอบอุ่นที่เราเคยสัมผัสใน Interstellar อย่างสิ้นเชิง จนนำพาให้ทั้งตัวละครและผู้ชมก็อ้างว้าง โดดเดี่ยวราวกับ K จาก Blade Runner 2049 เลย ถ้าให้พูดกันตามตรงหนังเรื่องนี้ไม่ใช่ Sci-fi ที่อาจจะเข้าถึงผู้ชมทุกกลุ่ม แต่ถ้าเรามาดูกันจริง ๆ ตัวหนังก็ไม่ได้เชิงว่าน่าเบื่อ เล่าเรื่องยืดยาดเกินความจำเป็นขนาดนั้น เพียงแต่ pacing ของหนังอาจเป็นอะไรที่ไม่ได้คุ้นชินกันเท่าไหร่ บรรยากาศที่หนังสร้างมาพร้อมกับงานภาพ งานเสียง เทคนิคต่าง ๆ มันออกมาดีมากประมาณนึงเลยนะ แล้วไหนจะการแสดงของ Brad Pitt ที่มาพร้อมกับมง ” คนเหงา 2019 ” ซึ่งถ่ายทอดได้ดีมากๆ อีก ชอบในส่วนนี้และส่วนที่นำเสนอเรื่องครอบครัวออกมาได้ฉีกจากที่เคยดูมาทั้งหมดดี โดยรวมแล้ว Ad Astra ถือว่าโอเคเลยนะเพียงแต่อาจจะไม่เหมาะกับคนที่ไม่ชอบดูหนัง Slowburn ไม่ชอบหนัง Sci-fi ปรัชญาค้นหาชีวิต อาจจะต้องผ่านไปจะดีกว่า เพราะมันแทบจะไม่มีความแอ็กชั่น ไม่โครมครามและเล่าเรื่องเรื่อยๆ (แต่ต้องย้ำว่าไม่ได้น่าเบื่อ) เลย แต่แค่การแสดงของ Brad Pitt ก็คุ้มที่จะมาลองดูชมเหมือนกันครับ