รีวิว John Wick: Chapter 3 – Parabellum แรงกว่านรก 3


อีกไม่กี่อึดใจแฟนหนังก็จะได้พบกับภาคต่อสุดเดือดของหนังแอคชั่น John Wick: Chapter 3 – Parabellum แรงกว่านรก 3 ที่กลับมาสานต่อความมันไปกับการล้างแค้นจากการฆ่าหมารักเพียงตัวเดียวของ จอห์น วิก สุดยอดนักสังหารจากจักรวาลนักฆ่า แน่นอนว่าหนังยังคงได้ คีอานู รีฟส์ (Keanu Reeves) มาออกลีลาบู๊และ แชด สตาเฮลสกี (Chad Stahelski) มากำกับความโหดเหมือนเดิมนับตั้งแต่ภาคแรก

John Wick: Chapter 3 – Parabellum แรงกว่านรก 3 ว่าด้วยเรื่องราวของ จอห์น วิก ที่กลับมาสู่วงการนักฆ่าอีกครั้งเพื่อตามล้างแค้นทายาทของแก๊งมาเฟียที่ขโมยรถและฆ่าหมาที่ภรรยาของเขาส่งมาให้เป็นของขวัญหลังจากตายไป ก่อนจะหลังจากถูกสั่งตัดหางปล่อยวัด เพราะแหกกฎศักดิ์สิทธิ์ข้อที่ว่า ห้ามฆ่าในพื้นที่โรงแรมคอนติเนนตัล ทำให้เขาตกเป็นเป้าของมือสังหารทั่วโลกทั้งวงการที่ต้องการเงินค่าหัวล่าตัวเขาที่สูงถึง 14 ล้านเหรียญ

จอห์นต้องพึ่งตัวเองในการเอาชีวิตรอดจากนิวยอร์กที่ซึ่งครั้งหนึ่งเคยเป็นบ้านของเขา กระเสือกกระสนมาถึงคาซาบลังกา และเรียกหาพันธะเลือดที่เขาเคยทำไว้กับ โซเฟีย สาวสวยสุดอันตราย เจ้าของไนท์คลับที่ควบคุมเครือข่ายนอกกฎหมายทั้งหมดในแอฟริกาเหนือ จอห์นต้องการให้โซเฟียช่วยหาตัว ดิ เอลเดอร์ ผู้ที่เปรียบเป็นดาไลลามะแห่งโลกอาชญากร

ซึ่งจอห์นยื่นข้อเสนอว่าจะให้เขาไปฆ่าใครก็ได้แลกกับการล้างมลทินให้เขา และเป้าสังหารที่ดิ เอลเดอร์ ต้องการให้จอห์นลงมือครั้งนี้ไม่ใช่ใครที่ไหนแต่คือ วินสตัน ผู้จัดการโรงแรมคอนติเนนตัล ที่ครั้งหนึ่งเคยช่วยชีวิตเขาไว้

นับว่าเป็น 2 ปีที่คุ้มค่าสมการรอคอยมากทีเดียว หลังจากภาคสอง John Wick: Chapter 2 (2017) ที่ จอห์น วิก ต้องไปฆ่าผู้บริหารป้ายแดงในสภาสูงตามพันธะสัญญาที่เคยมอบให้ไว้ตัวร้าย และในภาคแรก John Wick (2014) ที่เข้าสู่วงการนักฆ่าเพื่อหมารักเพียงตัวเดียว โดยเรื่องราวในภาคที่สามนี้ก็เรียกได้ว่าอาจจะเป็นบทสรุปสุดท้ายของความแค้นในครั้งนี้ แน่นอนว่าหากใครที่ยังไม่ได้ดูสองภาคแรกแล้วข้ามมาดูภาคสามเลยก็ไม่ต้องห่วงว่าจะดูไม่รู้เรื่อง เพราะช่วงแรกๆ หนังได้มีการปูเรื่องราวให้ชมกันอยู่แล้ว

เรียกได้ว่าเรื่องราวในภาคนี้สมกับความคาดหวังของแฟนๆ เป็นอย่างมาก โดยเฉพาะฉากแอคชั่นที่จัดเต็มสุดๆ ลุ้นระทึกกันแบบยาวๆ มีได้ร้องเสียงหลงไปในแต่ละบาดแผลที่ถูกมีดจ้วงแทง ขวานปักอก กระสุนเจาะทะลุหัว แถมด้วยการออกโรงของน้องหมาสองตัว (ลูกน้องโซเฟีย) ที่มาแย่งซีนงับของสงวนได้ชนิดที่ว่าจะต้องร้องซี๊ดแน่นอน ถือเป็นหนังแอคชั่นที่ฆ่ากันได้โหดเลือดสาดมากถึงมากที่สุด

ส่วนฝีไม้ลายมือของ คีอานู รีฟส์ ก็ยังคงคุณภาพจัดหนักจัดเต็มเหมือนเดิมเพิ่มเติมคือผู้ช่วยคนใหม่ โซเฟีย ซึ่งรับบทโดย ฮัลลี เบอร์รี (Halle Berry) ที่ถือว่ามีฝีมือการฆ่าได้ไม่น้อยหน้ากันเลย แถมยังมีความรักน้องหมาไม่แพ้พระเอกของเราเลย และงานนี้ยังมีเรื่องราวหลายๆ อย่างที่ถูกเผยออกมา ชวนให้อยากรู้อยากเห็นและอยากให้สร้างภาคต่อไปเรื่อยๆ เลย

ในส่วนของพัฒนาการของตัวจอห์นก็เหมือนกับว่าถูกเคาะสนิมหลังจากร้างวงการไปมากขึ้นเรื่อยๆ สังเกตได้จากชุดที่สวมใส่แรกๆ ยังมีสีขาว พอผ่านหลายๆ เหตุการณ์ก็เข้าสู่ความดำมืดที่คาดว่าไม่น่าจะถอนตัวได้แล้ว ที่สำคัญในภาคนี้เจ้าตัวยังปะทะฝีมือกับเหล่านักฆ่าตัวฉกาจ เหี้ยมโหดกว่าภาคที่แล้วมาจนเสียเลือดเสียเนื้อไปไม่น้อย และหนังก็ยังคงมีการหักมุมตามสไตล์ ซึ่งสร้างความหวังในตอนจบที่ดูเหมือนจะมีภาคต่อไปอีก
แน่นอนว่าในฉากบู๊กับบรรดาตัวร้ายทั้งหลาย หนังก็ยังมีหลุดบล็อกกิ้งไปหลายจุดอยู่ เห็นได้อย่างชัดเจนว่าเหล่าคู่ต่อสู้ของจอห์นชะงักตั้งท่าเหมือนรอให้ถูกฆ่าตายแบบง่ายๆ และรู้สึกว่าฉากแอคชั่นช่วงหลังๆ มันยืดเกินไป จะตายก็ไม่ตายเสียที เข้าใจว่าอยากให้เห็นความเก่งกาจของเหล่านักฆ่า แต่บางทีมันก็นานเกินไป ทำเอาคนดูอย่างเราลุ้นกันเหนื่อยสุดๆ ไปเลย อย่างก็ตามนอกเหนือไปจากความสนุกของฉากแอคชั่น ต้องขอชื่นชมงานภาพที่ทำออกมาได้สวยมาก แสงสีอลังการไม่แพ้สองภาคแรก ฉะนั้นโดยรวมแล้วจึงคุ้มค่าสมกับการรอคอยและเงินที่จะตีตั๋วไปดูแน่นอน