รีวิว Dark Phoenix การระเบิดพลังครั้งสุดท้าย?!!


เข้าฉายในโรงภาพยนตร์ไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว สำหรับภาพยนตร์แฟรนไชน์ชื่อดัง Dark Phoenix ที่ทำเอาใจแฟนๆ ลุ้นกันใจจดใจจ่อว่าจะสามารถทำออกมาได้ดีกว่าเรื่องอื่นๆ ในแฟรนไชน์หรือไม่ เพราะก่อนหน้านี้อย่าง X-Men: Apocalypse (2016) ก็ดูเหมือนว่าจะไม่ได้สร้างความประทับใจให้แก่แฟนๆ เท่าที่คาดหวังไว้ โดยในเรื่องนี้หนังได้ ไซมอน คินเบิร์ก (Simon Kinberg) โปรดิวเซอร์หนังดังหลายเรื่องก็มานั่งแท่นกำกับเองครั้งแรก และยังคงได้เหล่ามนุษย์กลายพันธุ์คุ้นหน้ามาเล่าเรื่องราวในเรื่องนี้

Dark Phoenix ว่าด้วยเรื่องราวของ จีน เกรย์ ที่ออกไปทำภารกิจช่วยเหลือมวลมนุษยชาติจนได้รับพลังเปลี่ยนให้เธอกลายเป็น ดาร์ก ฟีนิกซ์ อันเป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้เธอเปลี่ยนไป แน่นอนว่าหนังยังคงได้แม่นางซานซา เอ๊ย โซเฟีย เทอร์เนอร์ (Sophie Turner) มารับบทนี้จากเรื่องที่แล้ว ซึ่งเป็นตัวละครที่ทำให้เกิดจุดเปลี่ยนของเรื่องราวทั้งหมด เรียกว่าเปิดเรื่องมาเราก็ได้เห็นช็อตสำคัญที่ทำเอาตะลึงกันเลยทีเดียว คิดว่าน่าจะเดากันออกว่าเป็นฉากไหน

ก่อนจะไปพบกับผลกระทบที่ตามมา อันก่อให้เกิดเรื่องราวการต่อสู้และช่วยเหลือของเหล่ามนุษย์กลายพันธุ์ที่มีต่อคนในครอบครัว งานนี้คาดการณ์กันไม่ยากเลยว่าเรื่องจะไปในแนวทางไหน เพราะมันแทบไม่มีจุดหักมุมหรือทำให้เราไขว้เขว้จากสิ่งที่คาดไว้เลย ซึ่งก็เป็นจุดที่ทำให้น่าผิดหวังไม่น้อยหากมองในเรื่องชั้นเชิงการเล่าเรื่อง เห็นได้อย่างชัดเจนว่าหนังพยายามหาที่ทางให้แต่ละตัวละครจบแบบลงตัวที่สุด เสมือนเป็นการทิ้งทวนแบบปลอดภัย

นอกจากตัวละครหลักๆ ที่ออกมาถ่ายทอดเรื่องราวและใช้พลังแต่กำเนิดมาให้เราจนแทบจะหายคิดถึงแล้ว ยังมีตัวละครใหม่ๆ อีกหลายตัวโผล่มาโชว์พลังให้ได้เห็น แต่สิ่งที่น่าผิดหวังไม่น้อยไปกว่าบทหนังก็คือตัวร้ายในเรื่องนี้ช่างดูอ่อนเสียเหลือเกิน เสียดายที่อุตส่าห์ได้ เจสสิกา แชสแทน (Jessica Chastain) มาร่วมแจม แถมยังไม่ค่อยให้รู้สึกว่ามีพลังความชั่วร้ายอย่างเรื่องอื่นๆ ที่สำคัญหนังมันไม่มีความเชื่อมโยงกันเป็นภาคต่อแบบจริงๆ จังๆ จึงทำให้ขาดความต่อเนื่องอย่างที่ควรจะเป็น

อย่างไรก็ตามใช่ว่าหนังจะไม่สนุกเลย เพราะอย่างน้อยก็รู้สึกว่าหนังทำออกมาได้ดีกว่า X-Men: Apocalypse จริงๆ โดยเฉพาะซีนระเบิดพลังของ จีน เกรย์ ที่ทำออกมาได้สวย ทรงพลัง ตระการตา แต่ก็เต็มไปด้วยความร้อนแรงน่าหวาดผวา อดคิดไม่ได้ว่าในอนาคตถ้าได้ไปเจอ กัปตันมาร์เวล แล้วจะเป็นยังไงบ้าง คงจะดุเด็ดเผ็ดมันไม่น้อยเลย อีกพาร์ทที่ทำได้ดีก็คือ ความดรามา ซึ่งมาจากสายใยรักความผูกพันของเหล่ามนุษย์กลายพันธุ์ที่อยู่ร่วมกันเสมือนครอบครัว เรียกว่าแฟนพันธุ์แท้น่าจะแอบน้ำตาซึมกันเลยทีเดียว ท้ายที่สุดแล้วคงไม่มีใครอยากเสียใจเพราะความผิดหวังจากสิ่งที่รักและผูกพันแน่นอน