รีวิวภาพยนต์อนิเมชั่นเรื่อง The Mitchells vs. the Machines


วันนี้เรามารีวิวภาพยนต์เบาสมองดูได้ทั่งผู้ใหญ่และเด็กกันดีกว่าโดยเรื่องราวนั้นจะทำให้เราเห็นความสัมผัสครอบครัวและความรักที่มีให้แก่กันบ้านมิตเชลล์นี้มีลูกสาวที่เริ่มโตและค้นพบเส้นทางฝันในการเป็นผู้กำกับหนัง แต่แน่นอนว่าคุณพ่อหัวเก่าย่อมไม่เข้าใจและเป็นห่วงว่าจะใช้เลี้ยงชีพได้จริงเหรอ จนกลายเป็นความระหองระแหงเล็ก ๆ ในครอบครัวเล็กที่สมาชิกแต่ละคนก็มีความแตกต่างกันสูง

และเมื่อถึงวันที่ลูกสาวต้องไปเข้ามหาวิทยาลัย คุณพ่อจึงตัดสินใจจัดทริประยะไกลพาทั้งครอบครัวไปส่งลูกสาวคนโต แน่นอนว่าหลังจากนั้นคือความวายป่วงของบุคลิกที่ขัดแย้งกันในครอบครัว แล้วยังไม่วายมีเรื่องของหุ่นยนต์ยึดครองโลกมาป่วนอีกต้องบอกว่า ‘The Mitchells vs. the Machines’ เป็นแนวหนังครอบครัว ผสมโรดมูฟวีที่มีกลิ่นฟีลกู้ด ชวนให้นึกถึง ‘Little Miss Sunshine’ (2006) อยู่บ้างเหมือนกัน ทว่าด้วยความเป็นแอนิเมชันที่ต้องเผื่อใจให้เด็กรับชมด้วยทำให้หนังไม่ดูยากเท่า และยังสามารถใส่ความแฟนซีลงไปได้มากกว่าจึงมีกราฟความบันเทิงที่โดดเด้งกว่ามาก ๆ

ด้านงานภาพต้องบอกว่าขึ้นชื่อว่ามาจาก Sony Pictures Animation แล้ว หายห่วงเรื่องความจัดจ้านของสไตล์ อย่างในหนัง ‘Spider-Man: Into the Spider-Verse’ (2018) ก็เห็นได้เป็นตัวอย่าง สำหรับเรื่องนี้ด้วยความที่ตัวละครอย่าง เคที ลูกสาวคนโตของครอบครัวนั้นเป็นตัวแทนสายตาผู้ชม และด้วยความชื่นชอบในการทำคลิปไวรัลลงยูทูบ หนังทั้งเรื่องจึงอุดมด้วยการผสมภาพมีมและดูเดิลในอินเทอร์เน็ตมากมาย บางครั้งใช้ภาพจริงผสมกับแอนิเมชัน 3 มิติด้วยซ้ำแบบขัดแย้งสุด ๆ แต่กลายเป็นว่าหนังยิ่งดูยิ่งมัน เราเห็นความมันมือ สนุกกับงาน รักในงานของทีมผู้สร้างผ่านตัวผลงานได้เลย

การทำด้วยความรักในงานนี้ ยังสะท้อนออกมาผ่านบทของหนัง ซึ่งอาจมองว่าไม่มีอะไรใหม่ได้หากคำนึงถึงเพียงเส้นเรื่องหลัก เพราะยอมรับว่ามันก็คือหนังตามสูตรที่ให้เด็กดูง่ายด้วย แต่ทว่าธีมและสารที่หนังต้องการสื่อเรารู้สึกได้เลยว่าพวกเขาให้ความสำคัญกับคำว่าครอบครัวมากขนาดไหน มันต้องเป็นคนที่รักครอบครัวและมีหัวใจอบอุ่นจริง ๆ ถึงจะทำหนังน่ารักอย่างนี้ได้แบบไม่ขวยเขิน

นอกจากนี้หนังยังมีซับพลอตที่น่าสนใจด้วย เกี่ยวกับเรื่องเทคโนโลยีที่มีพรากปฏิสัมพันธ์กับคนในครอบครัว ที่ยังสามารถพลิกมุมกลับให้หุ่นยนต์เป็นสายตาหลักว่ามนุษย์เองก็ใช่ย่อยในเรื่องไร้ใจ อย่าโทษเทคโนโลยีเลย ซึ่งสำหรับผู้ใหญ่มันก็มีมุมสะอึกที่ดีเหมือนกัน